top of page
Safeguardkids_Brand-Update_page-0012.jpg

วิธีปกป้องลูกจากภัยกรูมมิ่ง: เมื่อไปที่ไหนก็ไม่เป็นที่ปลอดภัย

  • Pattreya Riwthong
  • 13 พ.ค.
  • ยาว 1 นาที

ในยุคที่ภัยคุกคามทางเพศแฝงตัวอยู่ทุกที่ ไม่เพียงแค่ในมุมมืดของสังคม แต่กลับพบได้แม้ในสถานที่ที่เราเคยเชื่อว่า "ศักดิ์สิทธิ์" หรือ "น่าเชื่อถือ" เช่น กรณีล่าสุดที่เจ้าอาวาสวัดดังในจังหวัดชลบุรีล่อลวงและข่มขู่เด็กหญิงวัย 13 และ 18 ปีให้ร่วมหลับนอน หรือคุณครูที่กระทำอนาจารเด็กมากถึง 17 คน

สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่า การคุกคามทางเพศสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ และไม่ใช่แค่โจรเท่านั้นที่จะกระทำสิ่งไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในอาชีพใด หรือเป็นคนรู้จักใกล้หรือไกลตัวเพียงใด เราก็ควรระวังและสอนลูกให้ปกป้องตัวเองเสมอ


สถิติที่น่าตกใจ

ข้อมูลจาก TICAC รายงานว่า ในปี 2567 เด็กหญิงอายุ 8-14 ปี เป็นกลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศมากที่สุดถึง 118 คน รองลงมาคือเด็กหญิงอายุ 15-17 ปี จำนวน 74 คน และเด็กชายทุกช่วงอายุรวม 11 คน

ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือผลสำรวจจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน ที่พบว่าเด็กอายุ 9-18 ปี ใช้โซเชียลมีเดียทุกวันถึง 85% และถูก Online Grooming มากถึง 12% ซึ่งชี้ให้เห็นว่า

อาชญากรรมทางเพศเกิดขึ้นได้ง่ายทั้งในโลกจริงและโลกออนไลน์

เข้าใจวิธีการของผู้ล่อลวง

ผู้ล่อลวงมักใช้เทคนิคดังนี้:

  • มองหาเด็กที่ขาดความเอาใจใส่จากครอบครัว โหยหาความสนใจ หรือขาดแคลนเงินทอง โดยเฉพาะในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว

  • ค่อยๆ สร้างความไว้วางใจ แสดงความห่วงใย ให้ความช่วยเหลือ และสร้างบุญคุณกับครอบครัว บางรายใช้เวลาเป็นเดือนหรือปี

  • มองหาโอกาสอยู่กับเด็กตามลำพัง เช่น อาสาดูแลเด็กยามพ่อแม่ไม่ว่าง พาไปซื้อของหรือพาไปเที่ยว

  • ใช้เกมหรือกิจกรรมพิเศษเพื่อทำให้เด็กรู้สึกเป็นคนพิเศษ เช่น การบอกความลับ


สัญญาณเตือนที่พ่อแม่ควรสังเกต

หากลูกของท่านมีพฤติกรรมต่อไปนี้ อาจกำลังตกเป็นเหยื่อ Online Grooming:

1.        ติดโทรศัพท์ ออนไลน์ตลอดเวลา ไม่ยอมให้ใครจับหรือดูโทรศัพท์

2.        ดูมีความลับ ไม่ยอมบอกว่าคุยกับใคร หรือไม่ยอมเล่าถึงคนคนนั้น

3.        สภาวะทางอารมณ์เปลี่ยนแปลง มีความกังวล อารมณ์ขึ้นลงรวดเร็ว แยกตัว ไม่พูดคุย


วิธีปกป้องลูกจากภัยคุกคาม

แม้เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าว่าภัยจะมาเมื่อใด แต่เราสามารถสร้างเกราะป้องกันได้:

  • พูดคุยกับลูกสม่ำเสมอ ไม่ตัดสิน ดุ หรือด่า แต่ใช้วิธีฟัง อธิบาย และให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เมื่อลูกทำถูก ควรชมเชยเพื่อให้เขารู้ว่าทำถูกต้อง การฟังจะทำให้ลูกไว้วางใจและกล้าเล่าปัญหา

  • สอน 4 ขั้นตอนปกป้องตนเอง:

1.    รู้จักและเชื่อมั่นในสัญญาณเตือนของตัวเอง

  • เชื่อความรู้สึกของตัวเอง – หากรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ นั่นคือสัญญาณว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง

  • สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ เช่น นอนไม่หลับ ฝันร้าย กลัวการอยู่คนเดียว

2.    กล้าที่จะปฏิเสธ

  • กล้าพูด "ไม่" ต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การแตะเนื้อต้องตัวหรือพูดจาลามก

  • ออกห่างจากสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยทันที เช่น เดินหนี หรือบล็อกช่องทางสื่อสาร

3.    เก็บหลักฐานและบันทึกเหตุการณ์

  • จดวัน เวลา สถานที่ และรายละเอียดของเหตุการณ์

  • เก็บข้อความ ภาพ หรือหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

  • อัดเสียงหรือบันทึกวิดีโอหากทำได้และปลอดภัย

4.    บอกคนที่ไว้ใจได้

  • ห้ามเก็บเรื่องนี้เพียงลำพัง ให้เล่าให้พ่อแม่ เพื่อน หรือครูประจำชั้นฟัง

  • ให้ความรู้เท่าทันสื่อและภัยออนไลน์ เพื่อให้ลูกรู้จักวิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงกลลวง

  • ปลูกฝังเรื่องสิทธิส่วนบุคคล สอนลูกให้รู้ว่าไม่ควรให้ใครมาแตะต้องส่วนที่เป็นส่วนตัว เช่น ก้น หน้าอก หรืออวัยวะเพศ และหากถูกล่วงละเมิด ให้รีบแจ้งผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ทันที


 

 

อ้างอิง

-               ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ. สถิติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต. https://humantrafficking.police.go.th/statistics-ticac/ 

-               PPTV. แม่โวยลูกสาวเที่ยวงานวัด ก่อนถูกเจ้าอาวาสวัดดัง ล่อลวงไปสวิงกิ้ง. https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/247959    

-               Thai PBS. เรื่องเสี่ยงใกล้ตัวเด็กไทย “Online Grooming” ที่ทุกคนต้องช่วยกันเป็นผู้พิทักษ์. https://www.thaipbs.or.th/now/content/1023 

-               Child Impact. Grooming การป้องกันและการจัดการ. https://childimpact.co/learning/grooming

-               Thai PBS. ภาคสังคม-ขรก.ชี้รัฐเร่งอุดช่องโหว่กฎหมาย ก่อนไทยเป็นแดนสวรรค์อาชญากรทางเพศออนไลน์. https://www.thaipbs.or.th/news/content/340280 

 

#มูลนิธิพิทักษ์เเละคุ้มครองเด็ก #SafeguardKids




สีสิทธิเด็กที่เกี่ยวข้อง:

สีขาว: เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงความเห็นในทุกประเด็นที่มีผลต่อพวกเขา และจะต้องถูกรับฟัง

สีเบจ: เด็กทุกคนมีสิทธิได้รับการปกป้องจากการแสวงหาผลประโยชน์และการถูกคุกคามทางเพศทุกรูปแบบ

สีแดง: เด็กที่เป็นเหยื่อของการถูกละเลย ทอดทิ้งหาผลประโยชน์ หรือถูกคุกคามทางเพศมีสิทธิที่จะได้รับการฟื้นฟูและ กลับเข้าสู่สังคมปกติ

สีส้ม: เด็กที่ไม่สามารถอาศัยอยู่กับครอบครัว มีสิทธิที่จะได้รับการเลี้ยงดูทางเลือกเช่น การรับเป็นบุตรบุญธรรม

สีฟ้า: ในการกระทำใดๆที่เกี่ยวข้องกับเด็กผลประโยชน์ของเด็กจะต้องถือเป็นความสำคัญลำดับหนึ่ง

สีม่วง: เด็กทุกคนมีสิทธิในการใช้ชีวิตและพัฒนาตัวเอง

 

🚨 สามารถอ่านบทความฉบับย่อ อ่านง่าย แชร์ง่าย เเละติดตามเพื่อไม่พลาดข่าวสารด้านคุกคามทางเพศเด็กและเยาวชนใหม่ๆได้ที่ Facebook Safeguardkids.org  หรือกดลิ้งค์นี้ได้เลย https://www.facebook.com/safeguardkidsorg/ 

 

Comments


bottom of page