top of page
Safeguardkids_Brand-Update_page-0012.jpg

รู้ทันเบื้องหลัง ทำอย่างไรเมื่อถูก ‘แบล็กเมล์ทางเพศ’

อัปเดตเมื่อ 29 เม.ย.

 เด็กบางคนแค่ส่งรูปเล่นๆ ให้แฟน...อีกวันรูปหลุดถูกใช้ขู่รีดเงิน หรือบังคับให้ถ่ายเพิ่ม

นี่คือรูปแบบการแบล็กเมล์ที่กำลังเกิดขึ้นทุกวัน — โดยที่ผู้ใหญ่บางคนยังไม่รู้ว่ามัน "ร้ายแรงแค่ไหน"


ไฮไลท์บทความนี้

แบล็กเมล์ทางเพศคืออะไร? การข่มขู่เอารูป/คลิปส่วนตัวของเราไปใช้เรียกร้องสิ่งต่าง ๆถ้าไม่ทำ เขาจะขู่ว่า “จะส่งให้เพื่อน/ครู/พ่อแม่ หรือโพสต์ประจาน”
ใช้วิธีการไหนในการหลอกล่อ- ทำตัวสนิทก่อน- หลอกให้ส่งรูป/คลิป-ขู่-เอาคลิปไปทำร้ายเรา
วิธีป้องกันตัวเอง- ไม่คุย ไม่ถ่าย ไม่ส่ง ไม่คอล
ถ้าโดนแบล็กเมล์… ต้องทำยังไง? ตัดวงจร บล็อก ไม่ส่งคลิปเพิ่ม-บอกผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ-เก็บหลักฐาน- แจ้งตำรวจ โทร 1191
กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดนแบล็คเมล์เราเอาผิดคนทำได้ รวมถึงคนที่แชร์ต่อเช่นกัน - ฐานข่มขืนใจ ฐานรีดเอาทรัพย์ ฐานกรรโชกทรัพย์ และ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 

“แบล็กเมล์ทางเพศ” คืออะไร?

 

การแบล็คเมล์ทางเพศออนไลน์(Sextortion = Sexual + Extortion ขู่กรรโชกทางเพศ)

กระบวนการที่เด็กถูกบังคับข่มขู่ในโลกออนไลน์ โดยอาจเป็นถูกโน้มน้าวชักจูงหรือล่อลวงให้แสดงโชว์ลามกผ่านกล้อง ไม่ว่าจะรูปแบบการส่งรูปหรือวิดีโอเเชท (sexting) หรือการวิดีโอคอล หรือการล่อลวงไปละเมิดทางเพศจริง ๆ แล้วถูกบันทึกภาพวิดีโอ เพื่อนำไปข่มขู่เรียกเงินและสิ่งของอื่น นำไปผลิตสื่อทางเพศให้ได้เงิน สนองความต้องการทางเพศ หรือเพื่อประจานให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งภาพหรือคลิปนั้นก็จะถูกนำมาใช้ข่มขู่ให้ยินยอมครั้งต่อ ๆ ไปเป็นวังวน

ในกรณีที่ถูกล่อลวงชักจูงไปจริง ๆ อาจจะกลายเป็นการผลักดันเข้าสู่วงการโสเภณีเด็กหรือธุรกิจค้ากามเด็กต่อไป เเละในบางกรณีการทารุณกรรมเลยเถิดจนเกินจะควบคุม จนทำให้ผู้เสียหายพยายามที่จะทำร้ายหรือปลิดชีวิตตนเอง เนื่องจากเป็นทางเดียวที่จะหนีจากวังวนนั้นได้[i]

กรณีที่พบบ่อยในระยะหลังนี้ ได้แก่การ “แลกกล้อง” หมายถึงการถ่ายทอดสดพฤติกรรมทางเพศระหว่างสองฝ่าย โดยจะถูกโน้มน้าวชักจูงหรือล่อลวงให้กระทำพฤติกรรมทางเพศ กระทำต่อตนเอง กระทำกับผู้อื่น หรือถูกกระทำ ฝ่ายที่เป็นเหยื่อไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มมิจฉาชีพอัดคลิปวิดีโอเอาไว้ข่มขู่เรียกเงิน เอาคลิปวิดีโอไปขายในกลุ่มที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็ก หรือปล่อยขายทำกำไรบนเว็บไซต์สื่อลามกอนาจารทั้งในประเทศและต่างประเทศ [ii]


ใช้วิธีการไหนในการหลอกล่อ


  1. มิจฉาชีพจะเริ่มตีสนิทเหยื่อ โดยปลอมเป็นเพื่อน ทำเหมือนเข้ามาจีบและคุยจนเราไว้ใจ  เป็นศิลปินที่เด็กชื่นชอบ หรือคนที่ดูน่าเชื่อถือ สร้างความไว้วางใจ เป็นคนที่สนิทกับเรา โดยอาจพูดคุยเป็นเวลานาน และรู้สึกปลอดภัย

    ส่วนใหญ่จะเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กทั้งชายและหญิง (อายุต่ำกว่า 18 ปี) ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือทางฟังก์ชันแชตในเกม  

  2. โดยจะใช้ข้อความหลอกล่อค่อยๆ ขอข้อมูลส่วนตัว หรือโน้มน้าวให้เด็กส่งรูปหรือวิดีโอ

    อาจใช้คำพูดให้เด็กเชื่อว่า "แค่เราสองคนที่รู้กัน" หรือให้ข้อเสนอสิ่งของต่างๆ หรือเสนอเงินรายได้พิเศษ เช่น สัญญาว่า "จะพาไปเป็นดารา" "จะให้เป็นนายแบบ-นางแบบ" แลกกับการให้เด็กถ่ายภาพวาบหวิวหรือคลิปโป๊ส่งไปให้

  3. หลังจากเด็กส่งไปให้แล้ว มิจฉาชีพจะใช้ภาพหรือคลิปเหล่านั้นข่มขู่ เช่น หากไม่ส่งเพิ่ม จะเอาไปฟ้องโรงเรียน หรือเอาไปประจาน เเล้วถ้าเราจะฟ้องตำรวจ ก็ขู่จะเอารูปไปโพสต์ให้หมด ยิ่งทำให้เด็กหวาดกลัว เครียด แล้วส่งคลิปมาเพิ่ม หรือขอคุยเรื่องลามก ทั้งทาง video callต่อเพื่อเอารูป คลิป แม้แต่เสียง

  4. มิจฉาชีพจะเอาภาพหรือคลิปที่ได้นั้นไปเผยแพร่ในกลุ่มเพื่อแลกกับเงิน หรือปัจจุบันนี้มีวิธีใหม่ๆ เช่น นำหน้าเเละเสียงเราไปดัดแปลงในเเอปเพื่อทำเป็นสื่อลามก ดังนั้นจึงต้องระวังในการเเชร์รูปหรือคลิปเสียง


วิธีป้องกันไม่ให้ถูกแบล็คเมล์


✅ อย่าส่ง (ข้อมูลส่วนตัว : ที่อยู่ เบอร์โทร หรือโรงเรียน) ถ่าย รูปหรือวิดีโอที่วาบหวิวให้ใคร  คอลวิดีโอกับคนเเปลกหน้า [i]

✅ อย่ารับของคนแปลกหน้าเพราะเขาอาจจะมาทวงบุญคุญ

✅ ไม่เข้ากลุ่มลับต่าง ๆ เพราะคนเเปลกหน้าจะเข้ามาหาเราหรือติดตามเราเเละนำอันตรายได้

 

เเละเราอาจถูกเเอบถ่ายไม่รู้ตัวจากกล้องโน้ตบุ้คเรา

✅ ปิดกล้องเว็บแคมเมื่อไม่ได้ใช้ และปิดไฟ LED ที่กล้องแสดงว่าใช้งานอยู่

✅ ไม่เปิดลิงก์แปลกๆ หรือดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

 

❌ถ้าโดนขอให้ ส่ง ถ่าย คอล ให้บล็อกและเลิกติดต่อทันที

❌ ถ้ามีใครขู่ อย่าตกใจ รีบบอกพ่อแม่ ครู หรือหน่วยงานที่ช่วยเหลือเด็ก


แล้วถ้าเรากำลังถูกแบล็คเมล์ทำยังไงดี?


  • ปิดกั้นการเข้าถึงของคนร้าย เช่น บล็อก ไม่ตอบ แต่อย่าลบแชทเพราะเป็นหลักฐานได้และอย่าเชื่อคำขู่ของคนร้าย

  • เก็บหลักฐาน คนโพสต์และเผยแพร่ให้ปรากฏชัดเจน ส่วนใครที่นำไปแชร์ต่อ ให้เก็บหลักฐานไว้เช่นกัน เนื่องจากมีความผิดทั้งคนโพสต์และคนแชร์ ในส่วนของการเก็บหลักฐานการข่มขู่ รีดทรัพย์ ได้แก่ ข้อความ แชทสนทนา , คลิปเสียง

  • ขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ พ่อแม่ ครู ญาติ หรือโทรสายด่วน

  • แจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดี

  • (สำหรับผู้ปกครอง) หากมีเด็กในบ้านควรแก้ไขในระยะยาวด้วยปลูกฝังเรื่องการเคารพสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของผู้อื่น เพื่อปรับเปลี่ยนสังคมให้สมาชิกทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขปลอดภัย เพราะความเท่าเทียมเป็นพื้นฐานแรกของการลดความรุนแรงทุกรูปแบบ[i]

 

หากเราเป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์หรือเด็กมาขอความช่วยเหลือ

  • อย่าเริ่มด้วย “แล้วทำไมส่งรูปให้เขาล่ะ?” ให้เข้าใจเเละให้เด็กเล่าทุกอย่างให้ฟัง

  • ช่วยเด็กเก็บหลักฐาน

  • นำเรื่องไปแจ้งหน่วยงานช่วยเหลือหรือตำรวจ

  • ให้เด็กเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญฟื้นฟูจิตใจ

  • ไม่แชร์ ไม่ซ้ำเติม แม้จะแค่แคปมาเตือน


    เพิ่มเติม การเเบล็คเมล์ถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย 

    หากเราถูกแบล็คเมล์แจ้งความเอาผิดได้



    1. การข่มขู่ให้บุคคลอื่นกระทำการใดย่อมเป็นความผิดฐานข่มขืนใจโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 309 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

    2. หากเป็นการขู่ว่าจะเปิดเผยความลับเพื่อให้ส่งมอบทรัพย์สิน เป็นความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 338 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง200,000 บาท

    3.  หากเป็นการขู่ว่าจะใส่ความผู้ถูกขู่แก่บุคคลที่ 3 ไม่ว่าข้อความนั้นจะเป็นความลับหรือไม่ก็ตามถือเป็นการขู่เข็ญว่าจะทำลายชื่อเสียงผู้ถูกขู่เข็ญย่อมเป็นความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 337 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท

    4. หากถึงขั้นลงมือกระทำการตามที่ข่มขู่แล้วก็จะมีความผิดเพิ่มขึ้นอีกดังนี้แล้วแต่กรณี

    • หากเป็นการใส่ความต่อบุคคลที่ 3 เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 326,328

    • หากเป็นเปิดเผยความลับ มีความผิดฐานเปิดเผยความลับตาม ประมวลกฏหมายอาญามาตรา 322 -324


    หากเป็นการนำเข้าซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จหรืออนาจารเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14 (1),(4) [i] นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ส่วนคนที่แชร์ต่อ จะมีความผิดตามมาตรา 14 (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4) ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ[ii]

     

    และปัจจุบันนี้มีร่างกฎหมายผ่านเมื่อมีนาคมนี้เรื่องการแบล๊กเมล์ทางเพศ  (Sextortion) โดยตรง ระบุในร่างมาตรา 10 กำหนดเพิ่มเติมให้ผู้ใดข่มขู่ว่าจะเผยแพร่ หรือส่งต่อซึ่งข้อความ ภาพ หรือเสียงที่บันทึก เพื่อการอนาจาร หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เหมาะสมทางเพศของผู้ถูกข่มขู่ หรือสมาชิกในครอบครัวของผู้ถูกข่มขู่ หรือกระทำการด้วยประการอื่นใด อันอาจทำให้ผู้ถูกข่มขู่ สมาชิกใน ครอบครัวของผู้ถูกข่มขู่อับอาย หรือเสียชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ โดยบังคับให้ผู้ถูกข่มขู่จำยอมต้องกระทำการหรือยอมรับการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นการไม่สมควรทางเพศ โทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท อ่านเพิ่มเติมที่นี้



แบล็กเมล์ไม่ใช่ความผิดของเด็ก — แต่เป็นอาชญากรรมของคนที่ทำ
การเข้าใจและไม่ตัดสิน คือจุดเริ่มต้นของการปกป้องเด็ก

 

 

💡 หากมีใครกำลังถูกแบล็คเมล์ อย่าเก็บไว้คนเดียวนะคะ บอกพ่อแม่หรือครูและเก็บหลักฐานไว้

และหากมีข้อมูลหรือเบาะแสกระทำความผิด สอบสวนกลางช่วยคุณได้

สามารถ Inbox มาได้ที่ Facebook เพจ ‘สอบสวนกลาง’ หรือโทร. 1191 หรือติดต่อตำรวจโทร. 191 [i]



🚨 สามารถอ่านบทความฉบับย่อ อ่านง่าย แชร์ง่าย เเละติดตามเพื่อไม่พลาดข่าวสารด้านคุกคามทางเพศเด็กและเยาวชนใหม่ๆได้ที่ Facebook Safeguardkids.org 

หรือกดลิ้งค์นี้ได้เลย https://www.facebook.com/safeguardkidsorg/

อ้างอิง

Comments


bottom of page