สรุปกฎหมายใหม่
กฎหมายใหม่ เพื่อปกป้องเด็ก

พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2558 (ความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก)
ปกป้องเด็กก่อนวัยรุ่น โดยรวมถึงเด็กทารก
ประเด็นสำคัญของกฎหมายใหม่ มีดังต่อไปนี้ :
ผู้ใดอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็น “เด็ก” ไม่ว่าผู้นั้นจะบรรลุนิติภาวะโดยการสมรสหรือไม่ เจตนารมณ์หลักของการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายครั้งนี้ คือ การป้องกันเด็กก่อนวัยรุ่น (ต่ำกว่าช่วงอายุ 13 ปี) ซึ่งพบว่า สื่อลามกอนาจารเด็กที่พบในโลกนี้กว่า 80% เป็นสื่อที่มีเด็กก่อนวัยรุ่นปรากฏอยู่ (ข้อมูลจาก InHope.org) และนอกจากนี้เด็กทารกอายุต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งมีอัตราความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ก็ได้คุ้มครองไปถึงเด็กทุกคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีด้วย (ตามหลักการของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ได้กำหนดนิยาม “เด็ก” หมายถึง ทุกคนที่อายต่ำกว่า 18 ปี)
“เรื่อง” ตามคำนิยามประมวลกฎหมายอาญา หมายรวมถึง รูปภาพ วิดีโอ (ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ) อุปกรณ์เสียง (แถบบันทึกเสียง) และอื่นๆ ดังนี้ “เรื่อง” ที่สนับสนุนให้มีการกระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กก็ผิดกฎหมายด้วย
เจตนาของผู้กระทำต้องชัดเจน การครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กโดยเจตนา เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศนั้นผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะครอบครองเพื่อสนองความใคร่ของตนเองหรือเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น หากมีผู้ส่งสื่อผิดกฎหมายเหล่านี้มาถึงคุณหรือคุณมีสื่อผิดกฎหมายนี้อยู่ในความครอบครอง โดยที่คุณไม่ทราบมาก่อนหรือไม่ได้สนับสนุน คุณควรที่จะได้แจ้งให้ผู้ส่งทราบ หรือแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าส่งสื่อลามกอนาจารเด็กนั้นๆ ให้แก่รายชื่อผู้ติดต่ออื่นๆ ที่คุณมีอยู่ การกระทำเช่นนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณครอบครองสื่อผิดกฎหมายนั้นไว้โดยเจตนา
บทลงโทษ
การผลิต การแจกจ่าย, การทำให้เผยแพร่, การค้า และการกระทำผิคอื่นๆ = โทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี
การส่งต่อ = โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
การครอบครอง = โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
ก่อน พ.ศ. 2558
ก่อนที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มีลักษณะดังนี้
- การค้า การแจกจ่าย หรือการผลิตสื่อลามกอนาจาร เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
- ไม่มีคำนิยามคำว่า “ลามกอนาจาร”
- การครอบครองสื่อลามกอนาจาร เป็นการกระทำที่ “ถูก” กฎหมาย
- ไม่มีกฎหมายเฉพาะบัญญัติถึงสื่อลามกอนาจารเด็ก
กฎหมายใหม่ – หลัง พ.ศ. 2558
- สื่อลามกอนาจารเด็กเป็นปัญหาที่กระบวนการยุติธรรมต้องตอบโต้อย่างจริงจัง
- ผู้ที่ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก โดยมีเจตนา ผู้นั้นต้องถูกจับและเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลต่อไป
- ผู้ที่เข้าถึงสื่อลามกอนาจารเด็ก โดยมีเจตนา อาจเป็นผู้กระทำผิดได้ และมีแนวโน้มต่อการถูกจับกุม โดยขึ้นกับดุลยพินิจของศาล
- ความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็กต่างๆ อาจอยู่ภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศตามอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร (United Nations Convention against Transnational Organized Crime: UNTOC) ในบางสถานการณ์